ทำความรู้จักกับ e-Tax Invoice ลดหย่อนภาษี เพื่อประโยชน์ทางภาษีสูงสุด


e-Tax Invoice ลดหย่อนภาษี

Categories:

หนึ่งในเรื่องง่าย ๆ ที่คนเสียภาษีไม่ควรพลาดก็คือ การหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อมาใช้ลดหย่อนภาษีในแต่ละปีภาษี เพราะเป็นสิทธิ์ที่บุคคลธรรมดาผู้มีเงินได้ที่มีหน้าที่เสียภาษีพึงได้รับ และโครงการที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งในปี 2567 นี้ก็คือโครงการ Easy e-Receipt ที่รัฐบาลต้องการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนให้เพิ่มมากขึ้น ด้วยการเปิดให้ประชาชนนำใบกำกับภาษีแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ในการซื้อสินค้าและบริการระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 มาขอลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อลดภาษีที่ต้องจ่ายประจำปีภาษี 2567 ซึ่งประชาชนสามารถยื่นหลักฐาน e-Tax Invoice ลดหย่อนภาษีได้ในปี 2568 ช่วงระหว่างเดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคม

e-Tax Invoice ลดหย่อนภาษีคืออะไร

e-Tax Invoice ลดหย่อนภาษี คือ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ มีลักษณะคล้ายกับใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษที่คนทั่วไปคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่จะมีข้อมูลเพิ่มเติมจากแบบเดิม เช่น เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อสินค้าหรือรับบริการ (สามารถใช้เลขบัตรประชาชน หรือเลขประจำตัวนิติบุคคลก็ได้) หมายเลขอ้างอิงใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ของผู้ประกอบการซึ่งสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้

e-Tax Invoice เป็นหนึ่งในหลักฐานที่สำคัญที่ต้องใช้ยื่นต่อโครงการ Easy e-Receipt ของรัฐบาล เพื่อขอลดหย่อนภาษีปี 2567 โดยผู้ที่จะสามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้จะต้องเป็นผู้ประกอบการที่มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และลงทะเบียนในระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร 

แต่อาจจะมีข้อยกเว้นให้สำหรับผู้ประกอบการที่ขายสินค้าบางประเภท กรณีที่ไม่ได้เป็นผู้ประกอบการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น ผู้ประกอบการที่ขายหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ผู้ประกอบการที่ให้บริการการเช่าหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูป e-book หรือผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (สินค้า OTOP) ที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนเรียบร้อยแล้ว โดยหลักฐานที่ต้องได้จากผู้ประกอบการทั้ง 2 ประเภท คือ ใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt)

e-Receipt ก็มีลักษณะที่คล้ายกับใบเสร็จรับเงินแบบกระดาษ แต่จะมีข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติม เช่น เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อสินค้าหรือรับบริการ (สามารถใช้เลขบัตรประชาชน หรือเลขประจำตัวนิติบุคคลก็ได้เช่นเดียวกัน) หมายเลขอ้างอิงใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ และลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ของผู้ประกอบการ

e-Tax Invoice ลดหย่อนภาษี

Easy e-Receipt ให้ประโยชน์ทางภาษีอย่างไรได้บ้าง

สำหรับโครงการ Easy e-Receipt ที่รัฐบาลสนับสนุนให้ประชาชนผู้มีเงินได้นำเอาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์มาขอลดหย่อนภาษีนั้น เป็นอีกหนึ่งโครงการดี ๆ ที่ให้ผลประโยชน์ทางภาษีกับบุคคลผู้มีรายได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษี โดยผลประโยชน์ที่จะได้รับคือสามารถใช้ e-Tax Invoice ลดหย่อนภาษีผ่านการขอลดหย่อนรายได้สุทธิได้สูงสุดจำนวน 50,000 บาท โดยหากจะคิดคำนวณเป็นยอดภาษีที่ลดลงได้นั้นจะต้องคำนวณร่วมกับฐานภาษีที่ต้องเสียของแต่ละบุคคลร่วมด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่า ยิ่งเป็นผู้ที่มีฐานภาษีสูง ก็จะยิ่งสามารถขอลดหย่อนภาษีได้สูงตามไปด้วย

คำถามต่อมาที่คนทั่วไปอาจจะมีความสงสัยก็คือ แล้วสินค้าใดบ้างที่เข้าข่ายสามารถใช้ประโยชน์ทางภาษีเพื่อขอลดหย่อนภาษีได้ บทความนี้ก็ไม่พลาดที่จะนำเอาข้อมูลสำคัญนี้มาฝากกัน โดยอย่างที่กล่าวไปแล้วก่อนหน้าว่า สินค้าหรือบริการนั้น ๆ จะต้องเป็นสินค้าที่ขายหรือให้บริการโดยผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนในระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร โดยสินค้าที่เข้าร่วมมีดังนี้

1. สินค้าทุกประเภทที่ซื้อจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ยกเว้นสินค้าหรือค่าบริการ ดังต่อไปนี้

1) ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์

2) ค่าซื้อยาสูบ

3) ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ

4) ค่าน้ำมัน และก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ

5) ค่าสาธารณูปโภค ค่าไฟฟ้า น้ำประปา ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณอินเทอร์เน็ต

6) ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลา
ตามที่กำหนด เช่น ค่าสมาชิกต่าง ๆ

7) ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย

2. สินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้มิใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มบางประเภท ได้แก่

1) ค่าซื้อหนังสือ

2) ค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต

3) ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว

เมื่อทราบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ e-Tax Invoice ลดหย่อนภาษีกันแล้ว ก็อย่าลืมที่จะหาโอกาสไปจับจ่ายซื้อสินค้าหรือบริการที่จำเป็นต้องใช้อยู่แล้ว เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและได้ของจำเป็นไว้ใช้แล้ว ยังเป็นการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างสูงสุดอีกด้วย